บล็อกนี้ได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาอินเตอร์เน็ตและการสื่อสารในชีวิตประจำวัน เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ที่ให้ความสนใจ ขอขอบพระคุณทุกท่านที่มาเยี่ยมชม

8.29.2555

โคลนนิ่งมนุษย์ผิดจริยธรรม?

ประเด็นจริยธรรม
ข่าวใหญ่ในวงการแพทย์ ที่เกิดขึ้นก่อนสิ้นปี 2545 นี้คือเรื่องการคลอดของทารก Eve ซึ่งองค์การลัทธิไลเลียน (Raelien Sect) ซึ่งอ้างว่าตนเป็นศาสนาใหม่ที่มีความเชื่อว่ามนุษย์ต่างดาวได้ใช้วิธีการโคลนมนุษย์ชุดชุดแรกไว้ในโลกเมื่อ สองหมื่นห้าพันปีก่อนและมีความเชื่อว่าการโคลนมนุษย์เป็นวิธีการหนึ่งที่จะนำ ให้เผ่าพันธุ์ของมนุษยชาติได้เข้าถึงความเป็นอมตะได้ในที่สุด ผู้นำ ลัทธินี้ได้อ้างว่าได้ทำ การโคลนมนุษย์ให้แก่คู่ครองจำนวน 10 คู่ ซึ่งต่อมาครึ่งหนึ่งของจำ นวนนี้กำ ลังจะให้กำ เนิดทารก ซึ่งทารกที่เกิดจากการโคลนคนแรกของโลกได้เกิดขึ้นในวันที่ 26 ธันวาคมโดยมีแม่เป็นสตรีชาวอเมริกัน และต่อมาในวันที่ 5 มกราคม ทารกคนที่สองซึ่งเกิดจากเทคนิดเดียวกันลืมตามองดูโลกขึ้นเป็นครั้งแรก และต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้จะมีคุณแม่อีกหลายคนที่จะให้กำ เนิดทารกที่เกิดจากการโคลน

         แม้ว่าทางองค์การ Cloneaid ได้แถลงข่าวอย่างเป็นทางการถึงสองครั้งแล้วก็ตามแต่ในปัจจุบันก็ยังไม่มีองค์การใดที่จะเข้ามาตรวจสอบDNA ของทั้งมารดาและทารกทั้งสองคู่นี้ เพื่อยืนยันหรือปฏิเสธว่าทารกทัง้ คมู่ กี าํ เนดิ จากเทคนคิ ทางการโคลนมนุษย์ดังที่องค์การ Cloneaid ได้
อ้างไว้

         อันที่จริงเทคนิคการโคลนเซลล์ของสิ่งมีชีวิตนั้นมิใช่ของใหม่ ได้มีการพัฒนาการโคลนเซลล์ของพืชมากกว่า 30 ปีมาแล้วและได้ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมการเกษตรอย่างกว้างขวาง ส่วนการนำเทคนิคนี้มาใช้ในสัตว์ที่มีวิวัฒนาการสูง เช่น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนํ้านมนั้นเป็นข่าวใหญ่ในเดือนกุมภาพันธุ์ พ.ศ. 2540 เมื่อสถาบันโรสลิน (Roslin Institute) แห่งนครเอดินเบอร์ก แคว้นสก๊อตแลนด์ได้ประกาศการโคลนแกะดอลลี่ (Dolly the Sheep) ความเป็นไปได้ของการโคลนมนุษย์ดูจะมีความเป็นจริงมากยิ่งขึ้นทุกขณะ ผลลัพธ์จากการโคลนแกะดอลลี่นี้ส่งผลให้ประเทศมหาอำ นาจในยุโรป และองค์การทางศาสนาหลายแห่ง รวมทั้งองค์การสหประชาชาติได้ประณามและออกกฎเกณฑ์ห้ามการนำ เทคนิคนี้มาใช้ในมนุษย์อย่างเด็ดขาด ต้นเหตุสำคัญของข้อถกเถียงในเรื่องการออกกฎหมายห้ามการโคลนมนุษย์ในลักษณะนี้ มีต้นกำเนิดจากความเข้าในในเทคนิคการโคลนเมื่อมองจากทัศนะของผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ กัน นักบวชและนักการศาสนา
           นับตั้งแต่การเกิดการโคลนแกะดอลลี่ได้สำ เร็จ ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการโคลนมนุษย์นั้นมีความเป็นไปได้สูงขึ้นอย่างมาก เนื่องจากเทคโนโลยีที่ใช้นั้นไม่แตกต่างกันมากนัก อีกทั้งยังไม่ต้องการเครื่องมือที่ซับซ้อนหรือการใช้งบประมาณสูง อีกทั้งกลุ่มนักวิทยาศาสตร์และนายแพทย์หัวก้าวหน้าจำ นวนหนึ่งเกิดความรู้สึกท้าทายว่าใครจะเป็นคนแรกที่ทำ การโคลนมนุษย์ได้สำเร็จ

           สันตะปาปาจอห์นปอลล์ที่สอง ได้ออกแถลงการณ์ประณามการโคลนนิงมนุษย์และได้ทรงเป็นผู้นำ ทางศาสนาโลกคนแรกที่โจมตีการโคลนนิงมนุษย์ตั้งแต่ต้น นอกจากนั้นแล้วประธานาธิบดี จอร์จ ดับบลิว บุช ก็ได้ปราศรัยแสดงความไม่เห็นด้วยในการโคลนนิงมนุษย์อีกเช่นกัน แม้กระทั่ง มาตราที่ 11 แห่ง ปฎิญญาสากลว่าด้วยการทดลองว่าด้วย รหัสพันธุกรรมของมนุษย์ขององค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศห้ามการโคลนมนุษย์ด้วยเช่นกัน กระนั้นประเทศมหาอำนาจหลายประเทศรวมทั้งสหรัฐอเมริกา ก็มิได้มีการออกกฎหมายห้ามการโคลนนิ่งมนุษย์อย่างเด็ดขาดเหมือนประเทศในทวีปยุโรปอีกหลายประเทศผู้นำ ศาสนาอีกหลายศาสนาได้แสดงความไม่เห็นด้วยในเรื่อง

           โคลนนิ่งนี้อย่างเปิดเผย ด้วยเหตุผลสำ คัญคือมนุษย์ได้ล่วงละเมิดเข้าไปในดินแดนของพระผู้เป็นเจ้าแล้ว
ผลกระทบประการแรกนับจากที่ได้มีการประกาศว่าทารก Eve เด็กหญิงคนแรกที่เกิดจากการโคลนนิ่งได้ลืมตาดูโลกแล้ว โดยเกิดจากการสร้างทารกจากรหัสพันธุกรรมของมารดา เพราะความจำ เป็นที่ทั้งสามีของนางเป็นหมันและทั้งคู่ต้องการมีบุตรอย่างมาก สำ นักวาติกันได้ออกประกาศประณามการการโคลนนิ่งในครั้งนี้อีก ว่าเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบในชีวิตมนุษย์ เหตุผลอีกประการหนึ่งของนักวิทยาศาสตร์อีกกลุ่มหนึ่งคือการโคลนนิ่งมนุษย์นั้นยังเป็นเทคโนโลยีที่ไม่สมบูรณ์เพียงพอที่จะทดลองในมนุษย์ได้ ดังเช่นตัวอย่างของแกะดอลลีซึ่งเมื่ออายุได้เพียงห้าปีก็มีอาการป่วยข้ออักเสบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแกะตัวนี้มีอายุทางชีวภาพที่แก่กว่าแกะที่เกิดจากวิธีปฏิสนธิทางธรรมชาตกิ วา่ 5 ป ี สว่ นนักวทิ ยาศาสตรก์ ลมุ่ ใหญอี่กกลุ่มยังไม่ยอมรับว่า
Cloneaid โคลนทารกเหล่านี้จริงตามคำ กล่าวอ้างเนื่องยังไม่มีรายงานยืนยันจากแหล่งข่าวอิสระ หรือสถาบันวิจัยทางการแพทย์ที่เป็นอิสระแห่งใดแห่งหนึ่งเป็นผู้รับรอง ชื่อสกุลและที่อยู่ของสามีภรรยาคู่นี้พร้อมกับทารกทาง Cloneaid ยังคงปิดเป็นความลับ

           ผู้ที่มีความคิดแบบอนุรักษ์นิยมมักประณามการโคลนมนุษย์ว่าไม่เหมาะสม เนื่องจากเป็นการเกิดขึ้นของชีวิตที่ผิดธรรมชาติ คือ ไม่มีการปฏิสนธิของตัวอสุจิและไข่ที่สุกแล้ว ชีวิตของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมนั้นเป็นชีวิตที่ล้วนได้ผ่านกระบวนการปฏิสนธิทั้งสิ้น การเกิดของดอลลีและสัตว์ที่ถูกโคลนนิ่งเหล่านี้จึงเท่ากับเป็นการฝืนธรรมชาติอย่างมาก แต่หากมองอีกแง่หนึ่งความสำ เร็จของเทคโนโลยีนี้ได้เปลี่ยนแปลงความ
เชื่อของมนุษย์ในศาสนาเทวนิยมไปอย่างมาก เพราะเท่ากับเป็นการปฏิเสธบทบาทของพระผู้เป็นเจ้าในการบัญชาการเกิดของพระวิญญาณศักดิ์สิทธิให้เข้าสู่ครรภ์มารดา เมื่อตัวอสุจิและไข่มีการปฏิสนธิ
นักวิทยาศาสตร์อีกกลุ่มหนึ่งที่สนับสนุนการโคลนนิ่งได้วิจารณ์การใช้เหตุผลนี้ว่าเป็นเหตุผลดั้งเดิมที่เคยยกขึ้นมาแล้วเมื่อยี่สิบปีก่อนของพวกเคร่งคัมภีร์ทั้งหลาย เมื่อนักวิทยาศาสตร์ได้พัฒนาเทคนิคการผสมเทียมเด็กหลอดแก้วได้สำ เร็จ และเทคนิคนี้ในปัจจุบันได้เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายในวงการแพทย์ทั่วโลก และใช้ในการแก้ไขปัญหาการมีบุตรยากของสามีภรรยานับแสนคู่ทั่วโลกในปัจจุบัน หรือเมื่อนายแพทย์คริสเตียนเบอร์นาร์ด ชาวอัฟริกาใต้ได้ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจมนุษย์ได้สำ เร็จ ก็พบกับคำ วิจารณ์ของพวกเคร่งคัมภีร์และสื่อมวลชนในรัสเซียในยุคสงครามเย็นเช่นกัน ดูจะเป็นธรรมดาที่ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ทุกครั้งจะได้รับการวิจารณ์อย่างรุนแรงจากสถาบันทางสังคมหลายฝ่ายกว่าจะเป็นที่ยอมรับ


อ้างอิง
•fercit.org/Newsletter/news3_1.pdf•www.bu.ac.th/knowledgecenter/epaper/jan_june2005/daungdown.pdf

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น